สวรรค์ชั้นที่ ๖
ปรนิมมิตวสวัตตีเทวภูมิ
เทวภูมิอันดับที่ ๖ นี้ เป็นแดนแห่งความสุขเป็นสวรรค์เทวโลกชั้นสูงสุดฝ่ายกามพจร อันเป็นที่สถิตอยู่แห่งปวงเทพเจ้าชาวฟ้าทั้งหลาย ผู้เสวยกามคุณารมร์ที่เทวดาอื่นรู้ความต้องการของตนแล้วเนรมิตให้ เป็นที่อยู่อันประเสริฐด้วยสุขสมบัติยิ่งกว่าสวรรค์ชั้นฟ้าทั้งหลาย โดยมีเทพเจ้าผู้ใหญ่มเหศักดิ์ทรงนามว่าสมเด็จท่านท้าวปรินิมมิตเทวธิราช ทรงเป็นอธิบดี เพราะฉะนั้น สรวงสวรรค์ชั้นนี้ จึงมีนามว่าปรนิมมิตวสวัตตีภูมิ ภูมิเป็นที่อยู่แห่งทวยเทพ อันมีท่านท้าวปรนิมมิตเทวาธิราชทรงเป็นอธิบดี
สวรรค์เมืองฟ้าแดนสุขาวดี อันมีนามว่าปรินิมมิตวสวัตตีภูมินี้ เป็นเทพนครที่ตั้งอยู่เหนือสวรรค์ชั้นนิมมานรดีขึ้นไปในเบื้องบนไกลแสนไกล
ณ สวรรค์ชั้นนี้ นอกจากจะมีทิพยสมบัติอันวิเศษเช่นปราสาทพิมาน และสวนขวัญอุทยานทิพย์อันสวยงามวิจิตรบรรจงยิ่งกว่าสวรรค์ชั้นอื่น ๆ แล้ว การเป็นอยู่ของทวยเทพผู้อุบัติเกิดในแดนสวรรค์แห่งนี้ ก็ยังแบ่งออกเป็น ๒ คือ
๑. แดนเทพยดา ก็ในแดนเทพยดานี้ มีเทวธิราชผู้ยิ่งใหญ่ทรงพระนามว่า "สมเด็จท่านท้าวปรนิมมิตเทวธิราช ทรงเป็นพระยาเจ้าฟ้าปกครองเทพยดาทั้งหลายในปรนิมมิตสวรรค์นี้ ให้ได้รับความสุขสำราญชื่นบานบันเทิงจิต
๒. แดนมาร ก็ในแดนมารนี้ มีพระยามาราธิราชผู้ยิ่งใหญ่ทรงพระนามว่า "สมเด็จท่านท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมาราธิราช" ทรงเป็นพระยาเจ้าฟ้าปกครองเทพยดาผู้เป็นมารทั้งหลายในปรนิมมิตวสวัตตีภูมินี้ ให้ได้รับความสำราญด้วยการเสวยสมบัติทิพย์เป็นสุขตามสมควรแก่อัตภาพ
จึงเป็นอันว่า ณ เบื้องสวรรค์ชั้นฟ้า อันมีนามว่าปรนิมมิตวสวัตตีภูมินี้มีการปกครอง และเหล่าทวยเทพแบ่งออกเป็น ๒ ภาค คือ ภาคเทพยดาฝ่าย ๑ ภาคหมู่มารฝ่าย ๑ ซึ่งอยู่กันคนละแดน มีเขตแดนกั้นในระหว่างกลาง ทั้งเทพยดาและหมู่มาร หาได้ไปมาหาสู่แก่กันและกันไม่ ทุกผู้ล้วนแต่ได้รับความสุขอันประณีตประเสริฐเสวยทิพยสมบัติ ณ ทิพยสถานพิมานแห่งตน ๆ มีความสำราญอย่างยิ่งกัน มากกว่าสวรรค์ชั้นฟ้าอื่น ๆ เพราะเป็นเทพผู้อุบัติเกิดในสรวงสวรรค์ชั้นสูงสุด
ทางไปสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี
หากจะมีปัญหาว่า การที่จะได้ไปอุบัติเกิดเป็นเทพยเจ้าเหล่าเทพยดา เสวยทิพยสมบัติเป็นสุขอยู่ ณ แดนสุขาวดีปรนิมมิตวสวัตตีสวรรค์ ซึ่งมีสมเด็จท่านท้าวปรนิมมิตเทวาธิราชทรงเป็นเทวาธิบดีผู้ปกครองนี้ จักต้องทำบุญกุศลประการใดบ้างเล่า
คำวิสัชชนาก็มีว่า ต้องอุตส่าห์ก่อสร้างกองการกุศลให้ยิ่งกว่าเป็นการอุกฤษฎ์ อบรมจิตให้สูงส่งด้วยคุณธรรม เมื่อจะให้ทานรักษาศีล ก็ต้องบำเพ็ญกันอย่างจริง ๆ มากไปด้วยศรัทธาปสาทะอย่างยิ่งยวดและถูกต้อง ทั้งนี้ ก็เพราะว่าผลวิบากแห่งทานและศีลอันสูงยิ่งเท่านั้น จึงจะบันดาลให้ไปอุบัติในสวรรค์ชั้นนี้ได้ ในกรณีนี้ พึงทราบพระบาลีชี้ทางไปสู่ปรนิมมิตวสวัตตีสวรรค์แดนสุขาวดี ซึ่งปรากฏมีในพระสูตรต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ทานสูตร๑
ดูกรสารีบุตร ! ในการให้ทานนั้น บุคคลไม่มีความหวังในทาน ไม่มีจิตผูกพันธ์ในผลแห่งทานแล้วให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยความคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกทาน เช่นเดียวกับฤๅษีทั้งหลายแต่กาลก่อนคือ ฤๅษีอัฏฐก ฤๅษีวามก ฤๅษีวามเทว ฤๅษีเวสสามิตร ฤๅษียมทัคค ฤๅษีอังคีรส ฤๅษีภารทวาช ฤๅษีวาเสฏฐ ฤๅษีกัสสป ฤๅษีภคุ ดังนี้
แต่เขาให้ทานด้วยคิดว่า "เมื่อเราให้ทานอย่างนี้ จิตของเราจะเลื่อมใส จะเกิดความปลื้มใจโสมนัส"
เขาผู้นั้น ให้ทานด้วยอาการอย่างนี้แล้ว เมื่อทำกาลกิริยาตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาทั้งหลาย ในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี
ปุญญกิริยาวัตถุสูตร๒
ดูกรเธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย ! บุคคลบางคนในโลกนี้ กระทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยทานมีประมาณยิ่ง กระทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีลมีประมาณยิ่ง ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลย เมื่อถึงแก่กาลกิริยาตายไปแล้ว เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี
ดูกรเธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย ! ท้าวปรนิมมิตวสวัตตี จอมเทพในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตีนั้น ทรงทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ทรงทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก ท้าวเธอจึงทรงเจริญรุ่งเรืองก้าวล่วงเหล่าเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตีสวรรค์ โดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ
๑. อายุทิพย์
๒. วรรณทิพย์ ๓. สุขทิพย์ ๔. ยศทิพย์ ๕. อธิปไตยทิพย์ ๖. รูปทิพย์ ๗. เสียงทิพย์ ๘. กลิ่นทิพย์ ๙. รสทิพย์ ๑๐. โผฏฐัพพะทิพย์
สังคีติสูตร๓
ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมถวายข้าวน้ำ ผ้าผ่อน ยวดยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่นั่ง ที่พัก ที่อาศัย และสิ่งที่เป็นอุปกรณ์แก่ประทีป ให้เป็นทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ เขาย่อมมุ่งหวังสิ่งที่ตนให้ไปโดยเขาได้ศึกษามาว่า "พวกเทพเจ้าเหล่าปรนิมมิตวสวัตตีสวรรค์ เป็นเทพที่มีอายุยืน มีวรรณะงาม มากไปด้วยความสุข" ดังนี้แล้ว เขาจึงจินตนาปรารถนาอย่างนี้
โอหนอ ! เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งพวกเทพเจ้าเหล่าปรนิมมิตวสวัตตีสวรรค์เถิด
เขาตั้งจิตนั้นไว้ อธิษฐานจิตนั้นไว้ อบรมจิตนั้นไว้ จิตของเขาน้อมไปในสิ่งที่ต่ำ มิได้อบรมเพื่อคุณเบื้องสูง เช่นนี้แล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อเกิดในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตีนั้น ก็ข้อนี้แล เรากล่าวสำหรับบุคคลผู้มีศีล ไม่ใช่สำหรับบุคคลผู้ทุศีล ผู้มีอายุทั้งหลาย ความตั้งใจของบุคคลผู้มีศีลย่อมสำเร็จลงได้เพราะเป็นของที่บริสุทธิ์
---------------------
| |
สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัสดี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น